PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
  • ตามความเป็นจริง03
ตามความเป็นจริง03 รูปภาพ 1
  • Title
    ตามความเป็นจริง03
  • เสียง
  • 11745 ตามความเป็นจริง03 /aj-sumran/03.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 26 มิถุนายน 2566
ชุด
ตามความเป็นจริง
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 3

    วันที่ 30 มกราคม 2557

    ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเรา พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย

    ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาว ๆ ลึก ๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราชัดเจน

    ตั้งแต่เกิดเราก็หายใจ แต่เราขาดการสร้างความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง ให้เกิดความเคยชิน สติรู้ตัวแล้วก็ลึกลงไปก็รู้ใจ ก็เลยไม่ทันการเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของขันธ์ห้า

    เราก็ไปมั่นหมายเอาว่าตัวใจกับขันธ์ห้านั้นเป็นปัญญาที่แท้จริง ซึ่งเป็นปัญญาที่เขาหลงมา ถ้าไม่หลงไม่เกิด ไม่เกิดไม่หลง เพียงแค่เกิด เขาก็หลง แล้วก็หลงเข้าไปปรุงแต่ง ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ ยึดอีก ยึดรูปรสกลิ่นเสียง อีกทุกอย่าง มันอัดเข้าไปหมดเลย กว่าจะแงะ กว่าจะคลาย กว่าจะแยกได้ ตามทำความเข้าใจได้ ก็ต้องอาศัยการสร้างตบะ สร้างบารมีความเสียสละ ความอดทน สัจจะ ความเพียร หลายสิ่งหลายอย่าง การทำความเข้าใจที่ถูกต้อง มันถึงจะถึงจุดหมายปลายทางได้ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็พยายามทำ คิดดีทำดี การกระทำของเราต้องถึงพร้อม ถึงจะเกิดประโยชน์

    ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราได้สร้างประโยชน์อะไร เราได้สร้างคุณงามความดีอะไรให้กับตัวเรา เราละความเกียจคร้านได้สักนิดไหม เราเพิ่มความขยันหมั่นเพียรให้กับตัวเราหรือไม่ เราหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ที่ต่อเนื่องหรือเปล่า

    ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ความรู้สึกรับรู้ของเราเป็นอย่างไร ลักษณะของใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ปกติเป็นอย่างไร เวลาทำกับข้าวกับปลา ใจของเราเกิดความอยากหรือไม่ เราจะปรุงแต่งเอารสไหนก็เป็นเรื่องปัญญา ทำหน้าที่ด้วยปัญญา ทำไปทำมา ความคิดมันผุดขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เราก็พยายามสังเกตดูตั้งแต่ต้นเหตุ

    พระพุทธองค์ท่านชี้ลงที่เหตุ เหตุทางด้านนามธรรมก็มีอยู่ เหตุทางด้านรูปธรรมก็มีอยู่ ท่านให้ชี้ให้เห็นเหตุแล้วก็ตามทำความเข้าใจ ใจก็จะยอมรับความเป็นจริงว่า มันไม่มีสาระอะไร เขาก็จะหาทางปล่อยวาง หาทางปล่อยวางไม่ได้ก็อยู่อุเบกขา ไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น ดูแลทำหน้าที่ไปด้วยสติด้วยปัญญา จนกว่าเขาก็จะแตกจะดับ

    ขณะที่ยังไม่ถึงเวลา ก็สนุกสร้างประโยชน์ สร้างบุญให้กับตัวเรา ให้กับสมมติ ไม่ปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นบุญ จบอยู่ที่เราอย่างเดียว ไม่ได้จบอยู่ที่อื่น

    สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ

    พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน ค่อยไปทำศึกษาต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ อันนี้เพียงแค่ย้ำ แค่เตือน แค่เล่าให้ฟัง

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service