แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ผมมีคำเดียวที่ผมพูดเสมอ เวลามีคนถามผมว่า ผมมีอะไรอยู่ในปัจจุบัน
ผมบอก ผมไม่มีอะไรครับ ผมไว้เนื้อเชื่อใจธรรมชาติ ไม่ว่าธรรมชาติจะเกิดอะไรขึ้น ผมมีจิตของผม ยอมรับ น้อมรับ ผมรอคอยสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรให้ผมอยู่เสมอ
แม้กระทั่งวันนี้ ธรรมชาติก็จัดสรรให้ผมได้มาพบกับท่าน ที่ผมรอคอยสิ่งนี้มา ผมอาจจะไม่ได้รู้ก่อนนะ แต่หมายความว่า ไม่จำเป็นเราต้องรู้เอง ธรรมชาติจะเปิดเผยให้เรารู้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะพูดกับท่าน ไม่ใช่คำคมครับ แต่ความหมายที่ผมอยากจะบอกว่า ผมไว้เนื้อเชื่อใจธรรมชาติ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้พบกันเนี่ย ช่างเป็นสิ่งที่ประเสริฐ มหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติจัดให้เราได้มาพบกัน แต่ผมเข้าใจว่านี่คือความหมายของผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราไม่รู้ แต่ธรรมชาติ ท่านกำหนดหมายมา เราไม่ปฏิเสธ
ผมไม่มีคำถามกับตัวผมเองในปัจจุบันนี้นะครับว่า ผมมีชีวิตอยู่ทำไม? เพื่ออะไร? และผมมีความรู้สึกว่าธรรมชาตินั้น เปิดเผยคำตอบกับผมอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกแบบนี้ ผมรู้สึกดีกับชีวิต ที่ผมพร้อมจะจบชีวิตลงเมื่อใดก็ได้นะครับ ผมไม่ได้มีความรู้สึกว่า ต้องมีชีวิตที่ยืนยาว และผมไม่ได้มีความรู้สึกว่าผมต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่มีอะไรครับ แค่มีชีวิตอยู่ แค่มีชีวิตอยู่ ก็มีความสุขเป็นล้นพ้นแล้วนะครับ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว
วันแรกที่เราพูดคุยกัน ผมบอก ผมมีชีวิตไปประดุจดังสายน้ำ ที่ไม่ได้ต้องไปคิดอะไร มันมีคันคลอง ที่จะกำหนดให้สายน้ำไหลไปแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นความรู้สึกของผมก็คือ แค่มีชีวิตอยู่ ก็เป็นความหมายที่หลุดพ้นแล้ว และยิ่งได้พบท่าน ยิ่งมีคุณค่า