แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เมื่อตอนที่ผมนั่งรถมากับน้องที่เขาขับรถรับผมมาเนี่ยเราคุยกันถึงเรื่องคุยกันเรื่องการฟังเพลงว่าทำไมจึงจึงฟังเพลงคือมีเล่าถึงว่ามีคนมาถามผมว่าเขาคิดมากเขาออกจากความคิดไม่ได้ ผมถามเขาว่าชอบฟังเพลงไหม เขาบอกชอบก็บอกไปฟังเพลงสิ เขาก็งง ๆ ผมบอกฟังเพลงคือออกจากความคิด เพราะตอนที่เราฟังเพลงที่เราชอบอ่ะเราไม่ต้องคิด ผมบอกโปรดเลือกเพลงที่ไพเราะ ที่เราชอบมาก ๆ แล้วฟังมันเมื่อยามใดที่เราต้องการจะออกจากความคิด เพราะขณะที่เราฟังเพลง เราก็ไม่ต้องการจะรู้ ว่าเพลงนี้มีเนื้อร้องว่ายังไง เพราะเราฟังมาจนกระทั่งจำได้ร้องเองก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องไปความหมายว่ามันมีจังหวะลีลาเป็นเพราะเราฟังจนกระทั่งดื่มด่ำซาบซึ้งกับมันแล้ว ความหมายคือการที่เรากลับไปอยู่กับความรู้สึกที่มันเป็นความไพเราะ ณ ปัจจุบันเหมือนกับตอนต้นที่เราเริ่มกิจกรรมวันนี้รายการที่เราฟังเสียงและเสียงนี้นะครับมันทำให้เราอยู่กับปัจจุบันเพราะเสียงที่ได้ยินเนี้ย เสียงที่มันดังอยู่ ณ ขณะปัจจุบันและความรู้สึกที่เราอยู่กับเสียงที่เป็นปัจจุบันเนี่ยไม่จำเป็นต้องไปคิดและความรู้สึกตอนที่เราฟังเพลงเนี่ยนะครับผมเล่าให้น้องน้องคนที่เขาพาผมมาผมบอกว่าผมเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เมื่อตอนที่ผมอยู่ในประเทศอินเดียและประเทศอินเดียเขาจะดูหนังแล้วก็จะทำสถิติกันว่าเขาดูหนังเรื่องนี้มากี่สิบครั้งแล้ว คือคนอินเดียนี่ก็แปลกนะครับ หนังที่ดีเขาต้องทำสถิติว่าเขาดูมาแล้วก็ที่ผมถาม
เฮ้ยคุณดู เขาบอกเขานับตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ คือที่แม่ไปดู ตอนที่เขายังไม่เกิด เขาก็นับได้แล้วนะ ว่าเขาถามแม่มาตอนที่ท้องเขาได้ดูหนังเรื่องนี้กี่ครั้ง แล้วผมก็ยกตัวอย่างให้ฟังบอกว่าเนี่ยหนังบางเรื่องที่ฉายที่เมืองไทย นานไปกระทั่งถ้าผมเอ่ยขึ้นมาเพราะเราจะรู้สึกว่ามันมีหนังเรื่องนี้เช่นสมมุติเรามีหนังเรื่องช้างเพื่อนแก้วเนี่ยนะครับเป็นหนังที่ปัจจุบันก็ยังฉายอยู่ในอินเดียยังฉายอยู่เสมอถามว่าการดูหนังแบบนี้คืออะไรเขาไม่ได้ดูต้องการจะรู้ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรแต่ก็ต้องการดูหนังเพื่อสัมผัสความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นขณะที่ดูหนังเรื่องนั้น ๆ นึกถึงภาพสิครับ ถ้าหนังที่เราดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจจนร้องไห้ ไปดูทีใดเราก็ยังร้องไห้อยู่ทุกที เราเตรียมผ้าเช็ดหน้าไปพร้อมเสร็จเลยนะครับเราเตรียมผ้าเช็ดหน้าแล้วหรือยัง จะได้เช็ดน้ำตา ความหมายของเรา เราจะได้ไปสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น ณ ปัจจุบันตอนขณะที่นั่งดูหนัง นี่เป็นความหมายที่เราก็ทราบดีอยู่แล้วในความรู้สึกของเรานะครับ แต่บ้านเราไม่มีวัฒนธรรมการดูหนังซ้ำ เพราะหนังบางเรื่องที่มันมันดีๆมันจึงดูซ้ำและดูกันและรัฐบาลอินเดียเขามาส่งเสริมให้ดูหนังประเภทนี้เพราะเขาจะงดเว้นการเก็บภาษีหมด จนกระทั่งหนังที่เคยดูแพง ๆ เช่นสมมุติว่าเป็น 100 บาทแต่พอหนังเข้าสู่ระดับที่มันเป็นประเทืองอารมณ์ได้แล้ว หนังก็จะไม่มีภาษีเลยปลอดภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ ค่าดูหนังก็จะถูกมากและทุก ๆ เมืองก็จะมีหนังประเภทนี้กลับมาให้เราดู
ถ้าวันนี้เราไปที่อินเดียเราก็ยังไปเห็นโปสเตอร์หนัง Haathi mere Saathi หรือช้างเพื่อนแก้ว อยู่ที่หน้าโรงหนังอยู่ดี แล้วเราก็จะไปดู แล้วเราก็ซับน้ำตาด้วยความสะเทือนใจ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์อย่างนี้ใช่ไหมครับ นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง ถามว่าขณะที่เราไปดูหนังในความหมายนี้ เราต้องการรู้เรื่องราวหรือ ก็ไม่ใช่ เราต้องการให้มันเริ่มต้นยังไงจบยังไงหรือก็ไม่ใช่ แต่เราต้องการสัมผัสความรู้สึกที่มันผุดปรากฏขึ้นในใจของเรา ที่นี่ความรู้สึกที่มันผุดปรากฎขึ้นในใจเราเนี่ยคือความหมายที่สำคัญของการที่เราจะต้องเรียนรู้ ต้องเรียนรู้นะครับเราไม่ได้รู้สึก เอ๊ะความเศร้าเสียใจมันเป็นสิ่งไม่น่าไปนั่งไปดูมันทำไมซ้ำ สิบรอบ ยี่สิบรอบใช่ไหมครับ เราก็กลับไปดู นึกถึงบ้านเราไม่ค่อยมีตัวอย่างหนังแบบนี้ อาจจะมีแผลเก่าใช่ไหม แต่ก็ไม่มีใครจะกลับไปดูแผลเก่าเป็นสิบ ๆ ครั้งก็ดูแค่ 2 ครั้งเองนะครับแต่ก็เป็นกรณีที่กำลังยกตัวอย่างให้ฟังนะว่ากรณีที่เราดูหนังในความหมายซ้ำเนี้ยก็คือการที่เรากลับไปสู่การรับรู้สิ่งที่มันรู้อยู่แล้วแต่เป็นการรับรู้สิ่งที่มันเป็นอารมณ์ความรู้สึกภายใน ที่นี้กำลังพูดถึงสิ่งนี้เพื่อจะโยงกลับมาสู่ประเด็นของการสัมผัสความรู้สึกที่ในชีวิตที่มันเป็นปัจจุบันและความสุขในชีวิตที่เป็นปัจจุบันนี้นะครับมันจะมีความหมายกลายมาเป็นการประจักษ์แจ้งสิ่งที่เรียกว่ามรณธรรม มรณธรรมคือสภาวะที่เราไปสัมผัสรู้สิ่งนั้นที่มันผุดปรากฏขึ้นในใจเราแล้ว มันไม่ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกกันว่าร่องรอยหรือรอยขีดข่วนหรือจะเรียกได้อะไรก็แล้วแต่ นึกถึงภาพนะครับ ขณะที่หนังจบ เราเช็ดน้ำตาแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้มาดูหนังเรื่องนี้อีกแล้วประมาณนี้นะครับ เราไม่ได้รู้สึกว่าการร้องไห้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เราไม่ได้รู้สึกปฏิเสธว่าเราไม่อยากร้องไห้แต่รู้สึกกับรู้สึกดีที่ได้ร้องไห้ ความรู้สึกดีที่ได้ร้องไห้เนี่ยเป็นความหมายที่ผมกำลังจะดึงกลับมาสู่การมีชีวิตอยู่ และในความหมายที่ได้สัมผัสรู้สิ่งต่าง ๆ