PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์
  • มารกลายเป็นมิตร
มารกลายเป็นมิตร รูปภาพ 1
  • Title
    มารกลายเป็นมิตร
  • เสียง
  • 9593 มารกลายเป็นมิตร /aj-pramuan/2021-07-30-04-16-38.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันศุกร์, 30 กรกฎาคม 2564
ชุด
แสงสุดท้าย
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ที่ผมพูดถึงมารนะครับเมื่อเช้า กลับมาใช้คำนี้อีกเพราะว่าที่พูดไปทั้งหมดหวังว่าจะดึงกลับมาใช้เนี่ยครับ มารคือสภาวะที่มันขัดขวางหรือทำลายน่ะครับไม่ให้จิตของเราเนี่ยเบิกบาน แช่มชื่นสดใส มันนำความขุ่นมัวคับแค้น เพราะฉะนั้นเวลาที่เราพูดถึงมารหมายถึง ในพระพุทธศาสนาเวลาพูดถึงมารเป็นคำรวมๆ นะครับ แต่ถ้าจะกล่าวเป็นรายละเอียดจะมีชื่อเฉพาะขึ้นมา มีกิเลสมาร มีขันธมาร มีอภิสังขารมาร มีเทวบุตรมาร มีมัจจุมารนะครับ มัจจุมารนี่คือความตายเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเองนะครับ

    แต่ที่พูดทั้งหมดทั้งสิ้นเนี่ยสิ่งเหล่านี้นะครับ เราสามารถทำสิ่งที่เรียกว่ามารให้สลายกลายเป็นมิตร เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่าให้เขาเข้ามา เขาเป็นมิตรของเรา เขาเป็นเพื่อนของเรา เรารอคอยเขาอยู่ คำว่ารอคอยเขาอยู่คือเราเปิดต้อนรับเขา ที่มันมีปัญหาคือเราปฏิเสธ เราปฏิเสธการสัมผัสรับรู้สิ่งนั้นในความหมายที่มันควรจะเป็น ทีนี้เมื่อตะกี้มันมีคำว่ามาร แล้วมันมีคำว่าตถาคตนะครับ เอาคำนี้มากลับมาใช้กันอีกที เพราะต่อไปเวลาพูดไม่ต้องนิยามอีกนะครับ คือสภาวะที่ชื่อเรียกว่าตถาคต

    จริงๆ พวกเราทุกคนนะครับสามารถเข้าถึงสภาวะของความรู้สึกที่ว่ามันว่าเป็นเช่นนี้เองได้ ความรู้สึกที่แก้วแตกมันเป็นเช่นนี้แหละ และความรู้สึกตรงนี้นะครับ แก้วแตกแต่ใจเราไม่แตกสลายใช่ไหมครับ ทีนี้สภาวะแบบเนี่ยนะครับที่ผมเรียกรวมๆ ทั้งหมดว่าเราจะต้องเกิดความหมายเป็นการหยั่งรู้หรือประจักษ์แจ้งมรณะธรรม มรณะธรรมคือสภาวะของความหมายที่มันเกิดประจักษ์แจ้งและมันไม่ทำให้เราเกิดความรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ หวั่นไหว ขุ่นมัวคับแค้น แต่พอรู้สึกได้และพอรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนี้แหละ มันเป็นเช่นนี้เองนะครับ ความหมายที่ว่ามันเป็นเช่นนี้แหละและเป็นเช่นนี้เอง ไม่ใช่เป็นความคิดที่จะไปบีบคั้นนะครับ แต่มันเป็นความหมายที่เกิดขึ้นในใจของเราและความรู้สึกในใจของเรามันบ่มเพาะให้เกิดความรู้สึกนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service