แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
คำแนะนำในการถอดเสียง
1. ไม่ต้องถอดเสียงอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คำพูด เช่น บทสวดมนต์ เสียงกระแอม ไอ
2. คำบาลี หรือ ศัพท์ที่สะกดไม่ได้ ให้สะกดตามเสียงที่ได้ยิน พร้อมใส่ไว้ในวงเล็บ เช่น (ปา ติ จะ ซา หมุป ปะ บาด) จะมีอาสามาช่วยตรวจสอบซ้ำอีกรอบ
3. คำที่ไม่แน่ใจ เพราะได้ยินไม่ชัดและไม่อาจสะกดได้ (เช่น บางครั้งเสียงของผู้ฟังในห้องที่ถามคำถามอาจจะเบามาก จนไม่ได้ยิน) ให้ใช้เครื่องหมายคำถามสามอันติดกัน ??? จะมีอาสามาตรวจสอบซ้ำอีกรอบ
รายชื่อไฟล์เสียง |
การปฏิบัติจิตใจเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน |
รายชื่อผู้ถอด |
ตวงพร ดวงส่าน |
หมายเหตุ |
เนื้อหา
ญาติโยมทั้งหลายได้มาปฏิบัติธรรม อาตมาหวังว่าญาติโยมทั้งหลายคงจะได้เรียนรู้ ได้สัมผัสกับธรรมะหลายๆอย่าง เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน เพราะว่าธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมชาติที่มีอยู่ที่ทีปภาวัน ก็ไม่เหมือนกับธรรมชาติที่ญาติโยมทั้งหลายเคยเป็นอยู่
ส่วนใหญ่ญาติโยมทั้งหลายอยู่ที่บ้านที่เรือน แต่ว่ามาที่นี่ มาอยู่ในที่ปฏิบัติธรรม กลางคืนญาติโยมทั้งหลายมองไปที่ทะเล มองไปที่ตลาดหัวถนน ก็จะเห็นแสงไฟหลากสี มองเห็นทิวทัศน์ต่างๆ กว้างไกล อากาศที่นี่เป็นอากาศที่เย็นสบาย มีความเงียบ มีความสงบมากกว่าหลายๆแห่งในธรรมชาติที่อยู่ข้างนอก
ญาติโยมทั้งหลายมาอยู่ที่นี่ ได้มีโอกาสมาดูจิตใจของตัวเอง รู้จักจิตใจของตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เรียกว่ามาเป็นอยู่อย่างนี้ การกินการอยู่ไม่ได้อย่างใจที่เราเคยรับประทาน อาหารคาวหวาน เพราะมาเพื่อปฏิบัติธรรม มาเพื่อบังคับตัวเอง
เพราะฉะนั้น อาตมาคิดว่าญาติโยมทั้งหลาย ต้องมีความอดกลั้นอดทน ความอดกลั้นอดทนนี้เป็นคุณธรรม เขาเรียกว่าขันตี ต้องมีความเพียร ที่เรียกว่าวิริยะ แล้วก็ต้องมีสติเพิ่มขึ้น แล้วก็มีสมาธิเพิ่มขึ้น ความจริงสมาธิทุกคนมีตั้งแต่เรายังเป็นเด็กๆ เป็นหนุ่มเป็นสาว ปัจจุบันนี้ก็ต้องใช้สมาธิอยู่เป็นประจำ ยกตัวอย่างว่า ญาติโยมทั้งหลายจะขับรถ ถ้าไม่มีสติ ไม่มีสมาธิก็อันตราย นี่สมาธิเราก็มี
อย่างโยมที่เป็นตำรวจ ป้องกัน ต้องมีการฝึกในการใช้อาวุธ เช่น ยิงปืน หรือว่าเล่นกีฬา ถ้าไม่มีสมาธิก็สู้เขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการฝึกทั้งนั้น ผู้ที่มีความชำนาญไปแข่งขันกับคนอื่น ถ้าไม่มีการฝึกเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีการฝึกมาก่อน ก็จะก้าวหน้าไม่ได้
ฉะนั้น ญาติโยมทั้งหลายที่มาอยู่ที่นี่ ได้มาฝึก มาอบรมในสิ่งที่ไม่เคยรู้ก็จะได้รู้ ในสิ่งที่ไม่เคยฟังก็ได้ฟัง ในสิ่งที่ไม่เข้าใจก็ได้เข้าใจ
ฉะนั้น ญาติโยมทั้งหลายที่มาปฏิบัติกันอยู่นี้ พื้นฐานไม่เหมือนกัน หมายถึงพื้นฐานในการปฏิบัติธรรม อย่างกลุ่มญาติโยมที่มาจากเสวียด เข้าวัดเข้าวากันมาเป็นสิบๆปี ไปวัดสวนโมกข์ ไปปฏิบัติธรรม แล้วอุตส่าห์ตามมาที่นี่
อาตมาก็ขอขอบพระคุณมากๆ อย่างโยมผู้หญิงคนหนึ่งไปอยู่อเมริกาตั้งสามสี่สิบปี ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าในต่างประเทศ ในอเมริกา อุตส่าห์มาที่นี่ ก็ด้วยศรัทธา ก็ต้องขอบพระคุณมากๆ แล้วก็มีโยมที่มาจากชุมพร ไม่เคยมา โยมที่มาจากกลุ่มชุมพร มาเข้าสวนโมกข์นานาชาติ บอกว่า ๘ ครั้งแล้ว มาฝึกอานาปานสติที่สวนโมกข์หนักกว่านี้เยอะมาก ๘ ครั้ง ก็อุตส่าห์ตามมาที่นี่ ก็ต้องขอบพระคุณเช่นเดียวกัน ก็มีโยมที่มาจากกรุงเทพ ช่วยเหลืออยู่ที่หอจดหมายเหตุ ที่กรุงเทพไปบ่อย ก็อุตส่าห์มาที่นี่
เพราะฉะนั้น หลายๆคนที่มาอยู่ที่นี่ พื้นฐานในการปฏิบัติธรรมไม่เหมือนกัน นี่สำหรับโยมตำรวจที่เข้ามา ยังไม่เคยมาที่นี่ ก็ผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาขอร้องแนะนำให้มา โยมไม่เคยรู้เรื่องการปฏิบัติธรรมอย่างนี้มาก่อน รู้สึกว่ายาก แต่การปฏิบัติธรรมนี้ โยมต้องเข้าใจอยู่ที่จิตใจนั่นเอง ถ้าจิตใจเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน ถ้าจิตใจไม่เปลี่ยนจะไม่มีอะไรเปลี่ยน แม้จะอยู่ที่นี่เป็นปีๆ กี่สิบปี ถ้าจิตใจไม่เปลี่ยนก็จะไม่เปลี่ยน
อาตมาไปอยู่ที่สวนโมกข์ ๕๒ ปี เห็นพระสงฆ์ เห็นบุคคลมากมาย บางคนอยู่ในวัด เป็นพระ เป็นชีอยู่กันเป็นสิบๆปี แต่นิสัยก็ไม่ได้เปลี่ยน เพราะจิตใจไม่เปลี่ยน คนเหล่านี้ก็ไม่ก้าวหน้า ก้าวหน้าไปไม่ได้เพราะจิตใจไม่เปลี่ยน
เพราะฉะนั้น โยมต้องใคร่ครวญพิจารณา เพื่อจิตใจจะได้เปลี่ยน เปลี่ยนในทางที่ดี พุทธศาสนาถ้าไม่ดีจริง อยู่มาถึงปัจจุบันนี้ไม่ได้ สองพันห้าร้อยกว่าปี
เดี๋ยวนี้ฝรั่งทั่วโลกก็มาสนใจความรู้ของพระพุทธเจ้า เพราะความรู้ที่ฝรั่งมีแก้ไขปัญหาไม่ได้ ดูจากความทุกข์ในจิตใจ เขาเจริญก้าวหน้าทางวัตถุ ทางเทคโนโลยี สร้างอาวุธมาทำลายโลกก็ได้ สร้างเครื่องบิน สร้างรถถัง สร้างเรือรบ สร้างเรือดำน้ำ สร้างจรวด สร้างดาวเทียม แต่ว่าจะเอาชนะกิเลสภายในจิตใจไม่ได้
ญาติโยมทั้งหลายก็รู้ข่าวดี ในประเทศอเมริกา อยู่ๆก็ใช้ปืนกราดยิงเข้าไปในชุมชน แล้วก็ตายกันเป็นสิบๆ เที่ยววางระเบิดไปก่อการร้าย แม้แต่เครื่องบินก็ตก ตายกันทั้งลำเพราะการก่อวินาศกรรม เขาแก้ไขปัญหาไม่ได้
ทีนี้ ธรรมะของพระพุทธเจ้าแก้ไขปัญหาได้ แม้แต่ข้อเดียวก็แก้ปัญหาได้เรื่องสังคมคือเมตตา โลโกปัตถัมภิกา เมตตา โลกปลอดภัยเพราะมีเมตตา คือรักผู้อื่น ถ้าเรารักผู้อื่น ทุกอย่างจะดีหมด
ท่านอาจารย์พุทธทาสท่านสอนว่า ถ้าถือหลายข้อไม่ได้ ถือสักข้อหนี่งก็พอ คือรักผู้อื่น รักด้วยเมตตา โยมลองนึกดูว่า ถ้าโยมรักผู้อื่น รักคุณพ่อ รักคุณแม่ รักญาติพี่น้องของเรา เราก็จะต้องดีขึ้น คือปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ให้พ่อแม่เขาสบายอกสบายใจ ถ้าเรารักประเทศชาติ รักศาสนา มันก็ยิ่งก้าวหน้า ถ้าเรามีความรักผู้อื่น เราจึงเสียสละทุกอย่าง
ถ้าจิตใจเปลี่ยนก็เปลี่ยนในทางที่ดี เรียกว่ากตัญญูกตเวที นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา ชีวิตของเรามาจากพ่อแม่ พ่อแม่เหนื่อยยาก เลี้ยงเรามา ถ้าเราไม่มีความกตัญญูกตเวที เราจะเป็นคนดีไม่ได้ ก็ต้องกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง ประเทศชาติ ศาสนา
ถ้าเรามีความกตัญญูกตเวทีอย่างเดียว เจริญแน่นอน กตัญญูกตเวทีคือจิตใจนี่เอง ถ้าใจมองเห็นบุคคลที่มีบุญคุณต่อเรา เราก็ทำได้ พอจิตมันเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน ถ้าจิตไม่เปลี่ยน มันก็ไม่เปลี่ยน
ฉะนั้น ขอให้ญาติโยมทั้งหลายได้รับประโยชน์กันทุกคน ประเทศไทยเราเป็นประเทศเก่าแก่ ก่อนหลายๆประเทศในโลกซะอีก เช่น ประเทศอเมริกาที่ไปตั้งประเทศก็ไม่เกิน ๓๐๐ ปี ประเทศไทยเราอยู่มาเรียกว่าเป็น ๑๐๐๐ ปี หรือหลายร้อยปี ตั้งแต่สุโขทัยราชธานีเป็นผืนแผ่นดินไทย พ่อขุนรามคำแหงที่ได้รวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่นแน่นหนา
พ่อขุนรามคำแหงเคร่งครัดต่อพระพุทธศาสนา จึงนิมนต์พระจากทางใต้ขึ้นไป ไปสอนอบรมประชาชนถึงภาคเหนือ ก็หมายความว่าภาคใต้โดยเฉพาะสมัยศรีวิชัย พุทธศาสนาฝังรากทางปักษ์ใต้อยู่แล้ว นครศรีธรรมราช ไชยา
พุทธศาสนาเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง มาจากศรีลังกาบ้าง มาจากพม่าบ้าง เปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมา พุทธศาสนาอยู่ในประเทศไทยมาช้านาน
อาตมาจึงพูดกับญาติโยมทั้งหลายว่า ญาติโยมทุกคนมีสายเลือดจากชาวพุทธ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย บางคนญาติพี่น้องของเรา เคยบวชเป็นพระสงฆ์ เป็นเจ้าอาวาสอยู่จนตายในผ้าเหลืองก็มี
ญาติโยมลองพิจารณาดู บรรพบุรุษของเรารักษาพุทธศาสนามาช้านาน ประเทศไทยเราจึงอยู่รอดปลอดภัยด้วยธรรมะในพระพุทธศาสนา
เดี๋ยวนี้พอประชาชนคนไทยไม่ค่อยสนใจพุทธศาสนา ปัญหาก็จะเกิดขึ้นมากขึ้นๆ เอาอะไรมาแก้ปัญหาได้ บางทีลูกนายตำรวจไปติดคุกก็มี เพราะว่าขาดบังคับตัวเอง ลูกนักการเมืองไปติดคุกก็มี เพราะว่าขาดการบังคับตัวเองนั่นเอง เพราะว่าสอนเท่าไร ห้ามเท่าไรไม่เชื่อฟัง ก็ปล่อยให้ติดคุก ไม่ว่าใคร เราอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศ ถ้าเราบังคับใจไม่ได้ มันก็ไม่แน่เหมือนกัน ตำรวจระดับสูงเข้าไปอยู่ในคุกกันหลายคน
การที่โยมมาฝึกคือฝึกบังคับจิต ฝึกเพื่อให้จิตเลื่อน เรามาอยู่กันหลายคน ผู้ที่เคยปฏิบัติธรรมมาก่อน เรียกว่าเป็นปีๆ ก็ยังทำกันอยู่ ก็ยังมาปฏิบัติธรรมร่วมกัน มาสร้างญาติธรรม มาเป็นสหายธรรมไปด้วยกัน
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมคือใช้ความเพียร แต่มันไม่แน่ว่าใครได้เข้าใจธรรมะก่อนหลัง ไม่แน่ บางคนปฏิบัติเป็นสิบๆปี แต่เข้าใจธรรมะไม่ได้ บางคนปฏิบัติเพียงไม่กี่วัน เข้าใจได้ เพราะธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มันเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ธรรมะธรรมดา
ยกตัวอย่างว่าองคุลีมาล ตามประวัติพุทธศาสนา ฆ่าคนตายเป็นร้อยๆ ยังขาดอยู่อีกคนหนึ่งไม่พบ ก็เที่ยวคอยซุ่มอยู่ วันหนึ่งพระพุทธเจ้าเดินผ่าน องคุลีมาลก็ถือดาบต้องการจะฆ่าพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าพระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ต้องการจะไปสอนองคุลีมาล พระองค์แสดงปาฏิหาริย์ให้องคุลีมาลไล่ไม่ทัน พระองค์ก็เดินธรรมดา เสด็จดำเนินไปอย่างธรรมดา องคุลีมาลถือดาบไล่ตาม เรียกว่าอย่างหมดกำลัง ยังตามไม่ทัน องคุลีมาลตะโกนว่า สมณะหยุดก่อนๆ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราหยุดแล้ว แต่แกยังไม่หยุด องคุลีมาลได้ฟังเพียงเท่านี้ ก็ถามไปว่า ท่านยังเดินอยู่ แล้วทำไม บอกว่าเราหยุดแล้ว พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า เราหยุดจากบาป จากอวผล จากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง องคุลีมาลก็ได้สติ คิดฆ่าคนมากมาย แต่ว่ายังไม่หยุดทำบาป องคุลีมาลก็เลยเปลี่ยน ตอนหลังมาบวชเป็นพระอรหันต์ องคุลีมาลก็ได้เป็นพระอรหันต์ทั้งๆที่ฆ่าคนมามาก
เพราะฉะนั้น ชีวิตตำรวจนี่ก็น่าเห็นใจเหมือนกัน บางทีไปฆ่าคนตายเพราะว่าไปต่อสู้กับโจรผู้ร้ายมีอาวุธประจำกายก็ไปยิงเขาตาย บางทีก็มันมารบกวนจิตใจ การฆ่าคนมันไม่ใช่เป็นของเล่นๆ มีคนเคยบวชที่สวนโมกข์ แล้วบอกว่านั่งสมาธิแล้วนั่งไม่ได้เลย มันจะเห็นภาพหลอนปรากฏขึ้นในใจ เห็นภาพหลอน มีนายทหารที่ไปทำสงคราม มาเล่าให้อาตมาฟังว่า นั่งสมาธิไม่ได้ พอนั่งสมาธิจะเห็นภาพหลอน เราเป็นตำรวจ มันก็ไม่แน่
ทีนี้ เราจะแก้อย่างไร เราไปทำกรรม กรรมมันมี ๓ อย่าง ๑. กรรมชั่วคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรืออื่นๆ เขาเรียกกรรมชั่ว ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ล่วงเกินของรัก โกหก เสพของมึนเมา พวกนี้เขาเรียกว่าทำกรรมชั่ว ก็ต้องล้างด้วยกรรมดี แต่ว่าต้องทำถูกต้อง แก้กรรมจริงๆต้องแก้ที่จิตใจ เพื่อเราเปลี่ยนจิตใจ
กรรมในพุทธศาสนามีถึง ๓ กรรม กรรมชั่ว กรรมดี กรรมเหนือชั่วเหนือดี กรรมเหนือชั่วเหนือดีคือกรรมฐานนี้เอง ที่โยมทั้งหลายได้มาทำกรรมฐานคือแก้กรรมได้ เพราะเป็นกรรมชั้นสูง ก็ต้องตั้งใจทำ ยกตัวอย่างว่า สมมติว่าเราไปทำคนตาย อย่างโยมตำรวจนี่ พอนั่งสมาธิมันเป็นภาพปรากฏขึ้นมา ก็แผ่เมตตาไปให้ว่าที่เราทำนี้เพราะความจำเป็น แต่ภาพเหล่านั้นไม่ใช่ของจริง เป็นภาพที่จิตมันสร้างขึ้นมา พอทำบ่อยๆ มันค่อยหายไปเอง
อาตมาก็แนะนายทหาร ที่บอกว่านั่งสมาธิไม่ได้ คราวหลังก็ดีขึ้น ภาพตอนหลังก็ไม่มา อยู่ที่จิตใจของเรานี้เอง ไปนั่งสมาธิที่บ่อนไก่ แรกที่ไปนั่งพาฝรั่งไป ฝรั่งบอกว่า คราวหลังเขาจะไม่มาเพราะมาแล้วเครียด แต่เดี๋ยวนี้เข้าไปนั่งในบ่อนไก่ เหมือนอย่างเข้าไปนั่งในโบสถ์ ในวิหาร บรรยากาศมันเปลี่ยน เพราะแต่ละคนๆไปฝึกสมาธิ ไปแผ่เมตตา
มีโยมตำรวจรู้สึกว่ามีบ่อนไก่ อาตมาจำไม่ได้ว่ามาจากอำเภอไหน ตั้งบ่อนไก่ แกบอกว่าเจ็บตาตลอด ตานี้ปวดตลอด วันนั้นไปนั่งสมาธิที่บ่อนไก่ ตาหายปวด กรงจากไก่มันแทงตา ปวด แล้วก็หายปวด แล้วยังมาขอหนังสือแผ่เมตตา ว่าจะไปแผ่เมตตามากๆ อาตมาก็บอกโยมทีว่าให้หาให้ อันนี้คือธรรมะ
เพราะฉะนั้น ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด มีอยู่ในคนไทย ในประเทศไทยช่วยกันรักษา เพราะฉะนั้น การที่ผู้บังคับบัญชาขอร้อง แนะนำ ชักชวนให้มาปฏิบัติ กระทั่งหวังประโยชน์ เพราะคนจำนวนมากได้รับประโยชน์ ฝ่ายพระสงฆ์ คนไทยเรา บวชเป็นพระ อย่างสมเด็จพระสังฆราชที่ถวายพระเพลิงพระองค์วันนี้ พระองค์ได้รับประโยชน์จากธรรมะของพระพุทธเจ้า มาเผยแพร่นับไม่ไหวในเมืองไทยเรา บรรพบุรุษของเรา
เพราะฉะนั้น วันนี้ขอโยมตั้งใจปฏิบัติธรรม เพื่อถวายแก่สมเด็จพระสังฆราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่บิดามารดา ปู่ย่า ตายายของเรา บุญกุศลมันไม่เหมือนกับวัตถุ เราหาเงิน หาทองให้ใครก็ได้ นั้นวัตถุ แต่มันเป็นของธรรมดา เรามาสร้างบุญสร้างกุศลให้มาอยู่ในจิตใจของเรา
การที่โยมทั้งหลายมาอยู่ที่นี่ มาสร้างบารมี มาทำให้เต็มมากขึ้นๆ ฉะนั้นจะช้าหน่อย แต่ว่าถ้ามีปัญญาอาจจะไปได้เร็วก็ได้ ธรรมะในพระพุทธศาสนาสรุปแล้วคือศีล สมาธิ ปัญญา หลายคนเข้าวัดเข้าวาก็จริง แต่ก็มีแค่ระดับศีล ยังไม่สนใจที่จะฝึกสมาธิ อย่างบวชเป็นพระ ที่จะฝึกกรรมฐาน ฝึกอะไรมา ท่านก็ไม่ค่อยมี แต่ว่าถือวินัย มันก็อยู่ในระดับศีล
ทีนี้ พอมาฝึกสมาธิมันก็สูงกว่าศีล พอได้สมาธิมา ก็ฝึกปัญญา วิปัสสนานี่มันสูง สูงกว่าสมาธิ สมาธิปัญญานี่เป็นกรรม เป็นกรรมที่ ๓
โยมก็ได้ปฏิบัติแล้ว ก็ชวนกันไป คนไหนที่ก้าวหน้าก็ไปก่อน คนไหนที่ไม่ก้าวหน้าก็ตามหลัง เรามาอยู่ร่วมกันเป็นเครือญาติ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
เมื่อวานอาตมาไปที่เวียงธรรม ควายฝูง วัวฝูงเกือบร้อยมาอยู่ พออาตมาเดินไปหัวหน้ามันวิ่ง ลูกน้องก็วิ่งตามกันไปๆ เพราะว่าหัวหน้านำ เช่นเดียวกันพระพุทธเจ้าตรัสว่า ฝูงวัวว่ายแม่น้ำคงคา หัวหน้าที่แข็งแรงก็ว่ายไปก่อน ตัวที่มีเรี่ยวมีแรงน้อยกว่าหัวหน้าก็ว่ายตาม ตามกันไปเรื่อยๆ ข้ามแม่น้ำคงคา เหมือนกันเราชาวพุทธ ผู้ที่เข้าใจธรรมะก่อน ก็แนะนำสั่งสอนพากันไป คนที่ยังไม่เข้าใจก็ต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจเรียนรู้ ก็พยายามตามไป สรุปแล้วคนไทยเรา แม้แต่ชื่อก็มีความหมายดีมาก เรียกว่าไทย ไทยแปลว่าอิสระ แปลว่าเสรี
เพราะฉะนั้นขอให้ญาติโยมทั้งหลายพอใจ ในการที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ อาตมาก็ทำได้แค่นี้ ก็ได้แนะนำ อาตมาก็เป็นเหมือนกับญาติโยม บวชมา ๖๓ ปี ปีนี้ ถ้าไม่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนา อาตมาก็คงอยู่ไม่ได้ อาตมาที่ได้บวชนาน เพราะว่าพรรษาแรก ได้มีโอกาสฝึกกรรมฐานนี่เอง ฝึกสมาธิ ก็มองเห็นประโยชน์ แล้วก็อยู่เรื่อยมา
อาตมามองเห็นประโยชน์ของการฝึกสมาธิ จึงพยายามที่เรียนรู้ภาษาฝรั่ง ไม่เคยเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่เคยเรียนที่มัธยม เรียนเองตลอด พยายามที่จะเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเผยแพร่ต่างประเทศ แล้วก็ทำมา ก็ได้อบรมฝรั่งไปแล้วสามสี่หมื่นคน เพราะความตั้งใจ
เพราะฉะนั้น ขอให้ญาติโยมทั้งหลายตั้งใจ ตั้งใจที่จะทำดี ตั้งใจที่จะทำประโยชน์ อย่างฝึกสมาธิประจำวัน
ต่อไปนี้ก็จะได้ฝึกสมาธิ โยมขอให้เตรียมใจ ทำให้เกิดศรัทธา สัทธา สาธุ ปะติฏฐิตา ศรัทธาตั้งมั่นในธรรม ให้เกิดประโยชน์มากมายเหลือเกิน เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนา เป็นประโยชน์ต่อโลก
เราทุกคนมีเครื่องมืออยู่ที่เรา ลมหายใจเข้า หายใจออกเป็นเครื่องมือที่สำคัญ พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าเพราะพระองค์ใช้ลมหายใจเข้าของพระองค์ แล้วก็ตั้งใจปฏิบัติ หายใจเข้าจิตเกาะติดกับลม ตามไป ฟังเทปบรรยายของท่านอาจาย์ ไม่ใช่จะต้องปฏิบัติทั้งหมด อันนั้นเป็นความรู้โดยละเอียด ปฏิบัติจริงๆ มีเพียง ๒ ขั้นเท่านั้น คือว่าถ้าได้สมาธิเพิ่มขึ้นๆ พอได้สมาธิอบรมให้เกิดปัญญา เรียกวิปัสสนา ให้เห็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นสังขาร คือมันไม่เที่ยง มันเกิด มันดับ มันเกิด มันดับตลอดเวลา
ลมหายใจเข้าออกมันเป็นธรรมชาติ จิตก็เป็นธรรมชาติ หายใจเข้าจิตเกาะติดกับลม อย่าไปหวัง อย่าไปต้องการจะสำเร็จอะไร ให้จิตเกาะติดกับลม ตามไปจากปลายจมูกมาที่ท้อง จากท้องตามมาที่ปลายจมูก พอเกาะติดกับลมอย่างนี้ จิตก็ค่อยสงบเป็นสมาธิ พอจิตมีสมาธิก็เกิดปีติ อิ่มใจสบายใจ ความสุขก็เกิดขึ้น แค่นี้ก็ได้สมาธิแล้ว ลองพิจารณาดู
เรามีพ่อมีแม่ มีปู่ย่าตายาย ท่านเหล่านั้นเขาตายกันไปหมดแล้ว เราวันหนึ่งก็ต้องตายไปเหมือนกัน เพราะมันไม่เที่ยง เพราะมันเป็นทุกข์ เพราะไม่มีตัวตน ก็ปฏิบัติเพียงแค่นี้ ใจโยมก็จะได้เลื่อน ต่อไปก็ตั้งใจปฏิบัติ วันนี้อย่างที่ว่าเป็นวันถวายพระเพลิงสมเด็จพระสังฆราช โยมก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลถวายเป็นการบูชาคุณสมเด็จพระสังฆราช ก็ตั้งใจปฏิบัติกันต่อไปนี้