แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เอาละครับ ต่อไปนี้ก็ขอให้พวกเราที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปทุกองค์ไม่ว่าบวชเก่าหรือบวชใหม่รวมทั้งแม่ชีคณะญาติโยมอุบาสกอุบาสิกาที่นั่งอยู่ ณ บริเวณนี้จงตั้งใจเตรียมตัวปฏิบัติธรรมในเวลาที่ดีที่สุดเพื่อจะเข้าใจธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ เพราะผมเองบัดนี้ผมจะลาพรรษาไปที่เกาะสมุยจะกลับในวันที่ 26 ที่ลาพรรษาไปเพราะมีภาระกิจอยู่ที่นั่น ช่วงนี้ก็มีฝรั่ง เข้าไปอบรม ที่ทีปภาวัน นอกจากนั้นผมก็ออกทุกวันไปร่วมปฏิบัติธรรมกับเจ้าคณะอำเภอเกาะสมุย ที่นั่นที่นี่ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบต่อวัดสวนโมกข์แห่งนี้ ผมก็เป็นห่วงมากพอสมควร เพราะว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาเจ้าอาวาสต้องรับผิดชอบทุกเรื่องนี้ตามกฎหมายพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เจ้าอาวาสมีอะไรบ้างก็ต้องรับผิดชอบเพราะฉะนั้นผมก็อยากจะขอร้องให้พวกเราที่อยู่กันที่สวนโมกข์แห่งนี้ช่วยกันดูแลวัดวาอารามให้ดีที่สุด
อย่างเมื่อวานมีคณะบุคคลกลุ่มใหญ่ คือ ผู้พิพากษาที่จะขึ้นไปหัวหน้าศาลทั้งหมด 140 คนเข้ามาเยี่ยมที่สวนโมกข์บางท่านเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา บางท่านเคยมาฟังบรรยายของท่านอาจารย์พุทธทาสครั้งสุดท้ายที่สวนโมกข์ก็มี ไม่น้อยกว่าสองสามคน คือท่านอาจารย์พุทธทาสท่านไปบรรยายอบรมผู้ที่จะเป็นผู้พิพากษาที่กรุงเทพรวมทั้งหมดประมาณ 10 ปี ตอนท้ายๆท่านก็ไปไม่ได้ แต่เขาก็ตามมาที่นี่ ท่านก็อบรมรู้สึกว่าครั้งหนึ่งแล้วท่านก็มรณะภาพไป ผลงานของท่านอาจารย์พุทธทาสที่ท่านไปอบรมผู้พิพากษาเกิดหนังสือที่สำคัญเกี่ยวกับการอบรมผู้พิพากษาโดยเฉพาะคู่มือมนุษย์ ที่คนได้รับประโยชน์มากบางคนคิดจะฆ่าตัวตายแต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ก็เปลี่ยนจิตเปลี่ยนวิถีชีวิตมาทำประโยชน์ เช่นคุณวิโรจน์ ศิริอัฐ ที่เล่าให้ฟัง คุณวิโรจน์ ศิริอัฐเนี่ยเป็นทนายความตั้งสำนักทนายความที่กรุงเทพ พอมีปัญหาชีวิตคิดไม่ออก คิดจะฆ่าตัวตายแล้วก็ได้พบหนังสือเล่มนี้คือคู่มือมนุษย์ เมื่อวานผมก็ได้มอบหนังสือคู่มือมนุษย์และหนังสืออื่นๆรวมกันแล้วสามเล่ม ให้ผู้พิพากษาแต่ละคน พวกเราก็ได้โอกาสมาให้พร ผู้พิพากษาที่เข้ามาเยี่ยมที่วัดเป็นการต้อนรับแขก
พระพุทธเจ้าตรัสว่าถ้าเราไม่มีการเคารพ ไม่มีปฏิสันถารต่อแขกที่มาเนี่ย เป็นความเสื่อมของพุทธศาสนาเหมือนกัน ความเคารพเนี่ยที่ว่าสำคัญ คารวะ 6 อย่าง ต้องเคารพพระพุทธเจ้า ต้องเคารพพระธรรม ต้องเคารพพระสงฆ์ ต้องเคารพสิกขา คือการปฏิบัติ ต้องเคารพในความไม่ประมาท ก็ต้องเคารพการปฏิสันถาร วัดของเราแต่ละวันแต่ละวันคนเข้ามาพวกคุณก็เห็นกันแล้วอย่าได้ประมาท ถ้าเกี่ยวกับคนเนี่ยอย่าได้ประมาทแม้แต่สัตว์ก็อย่าได้ประมาท คำว่าไม่ประมาทก็ต้องมีสติ มีสัมปชัญญะ อย่าดูถูกคนว่าเขาไม่มีความรู้เท่าเรา เขาเลวกว่าเรา อย่าไปคิดอย่างนี้เด็ดขาด ถ้าไปมองอย่างนี้เราจะเป็นคนประมาท ไม่สนใจต่อบุคคลที่เข้ามา เรารู้ไม่ได้ ว่าเขาเป็นใครมาดีมาร้าย เรารู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราโดยเฉพาะเป็นพระต้องวางตัวให้เป็นพระเสมอ พระมาจากคำว่า วร แปลว่าผู้ประเสริฐ พระสงฆ์เนี่ยเป็นเนื้อนาบุญของโลกที่เราเข้ามาบวชเนี่ยเราอาศัยศรัทธาของประชาชนเป็นอยู่ แต่มันต้องวางตัวปฏิบัติตัว ให้คนศรัทธาเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนาอย่าคิดจะให้เขาศรัทธาต่อตนเอง ถ้าคิดจะให้เขาศรัทธาต่อตัวเอง ดีไม่ดีจะคิดหาประโยชน์ต่อคนอื่น ต้องวางตัวให้เค้าศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ต้องวางตัวให้เค้าศรัทธาต่อวัดวาอาราม ฉะนั้นก็ให้ช่วยกันรักษาวัด วัดที่เป็นพื้นแผ่นดินพื้นแผ่นดิน ก็ช่วยกันทำความสะอาดถนนหนทางห้องน้ำห้องส้วมอย่าได้ประมาท เราประมาทเราเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำ
อย่างเมื่อวานผมเข้ามาก็รก มีลิงมันเอาลูกขนุนมากัดมากินตกลงมา เกะกะไปหมด ผมเห็นผมว่าต้องทำให้มันสะอาดก็บอกท่านมงคลไม้กวาดมากวาดมาเก็บให้มันสะอาดเรียบร้อย ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เนี่ยอย่าคิดว่าไม่สำคัญ ถ้าเราประมาทกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อไปจะประมาทกับสิ่งใหญ่ ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยเตือนให้ผมได้ยินได้ฟังว่าอย่าประมาทกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกเรื่อง แม้แต่คำพูดก็ต้องระวังอย่าไปพูดเล่นพูดหัว เราเป็นพระเนี่ยต้องมีสติสัมปชัญญะในการพูดในการใช้วาจา ว่าบุคคลประเภทไหนเราควรจะพูดอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ต้องฝึกทั้งนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดาเค้าเรียนถึงระดับปริญญาเอก การใช้คำพูดเนี่ย จิตวิทยาเรื่องการใช้ภาษา เพราะฉะนั้นคนที่ประสบความสำเร็จ เพราะว่าพูดเป็นนั่นเอง ปากถือว่าเป็นเอก ปากเนี่ยเป็นที่หนึ่ง เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา ที่เขาโน้ตเอาไว้ ฉะนั้นอย่าประมาท กับคนกับแขกที่มา พยายามวางตัวให้เค้าศรัทธาเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนา หน้าที่ของเราก็คือปฏิบัติธรรม ปฏิบัติวัตร วัตร นั่นก็คือการปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำ คือมีสติสัมปชัญญะแต่ละวันแต่ละวัน ต้องตั้งใจว่าจะให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น ให้เกิดประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา จะอยู่ที่ไหนจะไปที่ไหน ต้องปฏิบัติอย่างนี้คือเอาชนะกิเลส เนี่ยมาอยู่ที่สวนโมกข์ก็ได้ยินได้ฟังธรรมะอยู่เป็นประจำ ที่เอาเทปบรรยายของ ของท่านอาจารย์พระพุทธทาสมาเปิดให้ฟังแต่ว่าเราต้องสนใจต้องฟังให้เป็น สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ (สุดสูสัง ละภะเต ปัญญัง) การฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา ถ้าไม่ตั้งใจฟังก็เหมือนกับเสียงธรรมดาผ่านมาแล้วก็ไม่เก็บไว้ในใจ ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์แต่ละครั้ง ก็ต้องได้สติมาตักเตือนตัวเอง
ผมไปอยู่ที่เกาะสมุยก็เปิดวิทยุเสียงที่เขาถวายผมเครื่องนึงผมก็ฟัง ก็ได้รับประโยชน์ เหมือนกับท่านอาจารย์อยู่กับเรา ผมอยู่ที่นี่พอดีมีคนเอาวิทยุเสียงมาถวายเครื่องนึงเป็นคำสอนของเจ้าคุณป.อ.ปยุตฺโตเยอะมาก ฟังแล้วก็ได้รับประโยชน์ดีมากโดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านแม่นท่านจับเรื่องราวพระพุทธประวัติ เรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้รับความรู้ แต่ละวันละวันเราก็พยายามเติมความรู้ จากการอ่านหนังสือการฟัง จากการคิดทำไปเรื่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยไม่คิดทำอะไร สำหรับพระใหม่พระนวกะ ที่บวชเข้ามาเป็นเวลา 3 เดือน ตอนนี้ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ก็พวกคุณตั้งใจว่าการบวชเข้ามาจะต้องไม่มีอะไรเสียหายไม่มีอะไรบกพร่องมีแต่จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ต่อไปเมื่อสึกไปแล้วก็ได้ธรรมะติดเนื้อติดตัวไปเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน พบอุปสรรคปัญหาในชีวิตที่เราจะต้องพบต้องเจอ สำหรับชีวิตฆราวาสมันมีปัญหาเยอะมาก จนกระทั่งบางคนเครียดหาทางออกไม่ได้ไปกินเหล้า ไปเมายา ฆ่าตัวตาย ฆ่าคนอื่นตายก็มี ได้ยินได้ฟังกันบ่อย ๆ เราเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็ต้องสนใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ที่ผมมองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ การศึกษาธรรมะถูกวิธี
ท่านอาจารย์พุทธทาสได้อธิบายเอาไว้ว่าธรรมะทั้งหมด ในพุทธศาสนา ต้องมารวมอยู่ที่อริยะสัจสี่ อริยะสัจสี่ คือเรื่องชีวิตของเรา เรื่องทุกข์ เหตุทุกข์เกิด ความดับมันเลือนทุกข์ ถ้ามันถึงความดับมันเลือนทุกข์ ทุกข์เนี่ยมันมีอยู่แล้วในชีวิตของเราและมีทุกวันด้วย โดยเฉพาะทุกข์ทางด้านจิตใจ ทุกทางร่างกายก็มี แต่ที่มากคือทุกข์ทางด้านจิตใจ เพราะหตุให้เกิดทุกข์เราป้องกันเอาไว้ไม่ได้ เหตุเกิดทุกข์คือกิเลสที่มันคอยเข้ามา กิเลสเข้ามาในจิตใจและมันเผาจิตใจให้เร่าร้อนทำจิตใจมีปัญหา และมันก็ทิ้งเชื้อไว้คอยเกิดใหม่ กลายเป็นกิเลสอย่างกลางเกิดขึ้นรบกวนจิตใจกรุ่นอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างท่านอาจารย์ท่านพูดว่าสุนัขโรคเรื้อนมันไปนอนที่ไหนมันจะไม่สบายเลย ไปนอนกลางแจ้งไปนอนใต้ต้นไม้ ไปนอนใต้ถุน ขึ้นไปนอนบนศาลา มันคันมันรำคาญมันหาความสงบไม่ได้ เหมือนกันถ้าเราปล่อยให้จิตมันมีนิวรณ์มารบกวนเนี่ย รบกวนอยู่ที่ไหนจะไม่สงบเลย แม้แต่นั่งนั่งให้สงบนั่งนิ่งๆ ก็นั่งไม่ได้ อย่างนี้ต้องฝึกต้องบังคับ โดยเฉพาะเวลาฉันที่โรงฉัน ญาติโยมเค้ามาทำบุญทำทานอยู่ เค้ามองพระต้องให้เรียบร้อย อย่าเหลียวซ้ายแลขวานั่งไม่สงบ
พระพุทธรูปเนี่ยไม่มีจิตไม่มีวิญญาณทำไมคนมากราบมาไหว้ เพราะว่าลักษณะในองค์พระพุทธรูปโดยเฉพาะพระพักตร์สงบมาก ท่านอาจารย์พุทธทาสให้สร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรใกล้ๆ กับโรงฉันท์ ทำไมจึงไม่ไปไว้ที่อื่นท่านอาจารย์บอกว่าเพราะพระไปบิณฑบาตกลับมาบางทีมีอารมณ์วุ่นวายเพราะว่าความหิวรบกวนจิตใจไม่สงบ สร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรไปดูพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรดู ถ้าว่าคนมีหน้าตาอย่างนี้จิตใจของเขาจะเป็นยังไง ต้องประกอบด้วยสุทธิปัญญา เมตตา ขันติ ฉะนั้นจิตใจเนี่ยมันสำคัญพอกิเลสเข้ามาอยู่เป็นหน้ายักษ์หน้ามารทันที แต่ว่าถ้าจิตใจปกติก็หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เพราะ ฉะนั้นอย่าประมาทกับกิเลสเด็ดขาด กิเลสมันคอยเข้ามาไม่ว่าอยู่ที่ไหนไม่ว่าไปที่ไหน โดยเฉพาะเวลาคนมากันมากๆ คนเค้ามาจ้องมามองดู ก็ต้องมีสติสัมปชัญญะเตือนตัวเองว่าอย่าประมาทต้องนึกว่าเราเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์ตนเองเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แม้แต่การตักอาหารแม้แต่การฉันอาหาร อย่างดูในพุทธประวัติพระพุทธเจ้าฉันอาหารช้า ๆ ตักอาหารใส่เข้าไปในพระโอษฐ์และก็เคี้ยว มีคนคนนึงเค้าศรัทธาท่านอาจารย์พุทธทาส เห็นท่านอาจารย์ฉันอาหารนี่เองคือ คุณสุจิตต์ พันธุมนาวิน
คุณสุจิตต์เนี่ยเดี๋ยวนี้ยังมีชีวิตอยู่ คุณสุจิตต์เนี่ยเป็นนักศึกษานอกไปเรียนที่ประเทศอังกฤษอยู่หลายปี แล้วมาสวนโมกข์ตั้งใจจะมาบวชแต่ว่าคุณสุจิตต์เนี่ยมีครอบครัวอยู่ มีภรรยาอยู่ ท่านอาจารย์ก็ไม่ให้บวชให้อยู่อย่างฆราวาส คุณสุจิตต์อยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบปีทำอะไรได้เยอะมาก ทำสระนาฬิเกร์ คุณสุจิตต์เนี่ยทำงานขับรถแทรกเตอร์ขุดดิน เดี๋ยวนี้ก็ออกไปอยู่ทางนครสวรรค์ แก่กว่าผมนิดหน่อย คุณสุจิตต์เค้าศัทธาท่านอาจารย์มากที่เห็นท่านอาจารย์ฉันท์อาหารเนี่ย ท่านอาจารย์นั่งฉันอาหาร คุณสุจิตต์ท่านอยู่น่ะเค้าศรัทธา ฉะนั้นแม้แต่การฉันอาหารเนี่ยมันเป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เราอยู่กันมากๆ ก็ต้องนึกถึงคนอื่นเค้าเอาอาหารมาถวายก็ต้องนึกถึงคนอื่น ถ้ามีมากเราก็ตักเอามากหน่อย ถ้ามีน้อยก็นึกถึงคนอื่นแบ่งปัน ให้คนอื่นอยู่มากๆ เนี่ย สาธารณโภคี เป็นเหตุให้เกิดความสามัคคี เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติในชีวิตประจำวัน แล้วก็หาโอกาสเวลามานั่งสมาธิ เวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสองโมง ผมถือว่าเป็นเวลาสำคัญเพราะคนเข้ามาในวัดช่วงนี้เข้ามาเยอะมาก
ฉะนั้นถ้าเราไม่มองเห็นความสำคัญ ต่อไปผมคิดว่าพวกคุณแม้จะเป็นเจ้าอาวาสจะไปอยู่ที่ไหน จะสร้างความเจริญให้แก่วัดวาอาราม ผมคิดว่าทำไม่ได้เพราะไม่รู้จักว่าอะไรที่เกิดประโยชน์อะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเรามานั่งสมาธิตรงนี้กันมากๆ คนเข้ามาเค้าศรัทธาเค้าเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนาต่อวัดวาอาราม ฉะนั้นขอให้พวกคุณมองเห็น ว่ามาอยู่ที่นี่เพื่อทำประโยชน์ ทำประโยชน์ตัวให้เห็นทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น ปฏิบัติธรรมเอาชนะกิเลส กิเลสเข้ามาแล้วมาทำลายจิตใจ ให้มันสกปรกให้มันเร่าร้อนและมันก่อให้เกิดกิเลสอย่างกลาง ก่อให้เกิดกิเลสอย่างหยาบ กิเลสอย่างหยาบ ที่มันรุนแรงมากถึงกับฆ่าบิดาฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ มาตุฆาต ปิตุฆาต ทำลายสงฆ์ให้แตก เรียกว่า อนันตริยกรรม ที่พระใหม่ต้องเรียน อนันตริยกรรม ทำแล้วตกนรกเลยไม่มีทางที่จะแก้ไขได้ ต้องตกนรก ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตก ก็มาจากกิเลสอย่างหยาบที่มันออกมา ในกิเลสประเภทอื่นจะว่าเป็นกิเลสอย่างหยาบ หนึ่งอดทนต่อคำสอนไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านอบรมสั่งสอนก็ฟังไม่ได้ก็เบื่อ
คนบางคนตั้งใจจะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแต่ว่าถูกแนะนำสั่งสอนทนไม่ได้ นั่นก็คือกิเลสอย่างหยาบเหมือนกัน เห็นแก่ปากแก่ท้อง เห็นแก่กินมันก็เป็นกิเลสอย่างหยาบ จิตใจวุ่นวายครุ่นคิดในเรื่องกามคุณ นี่ก็เป็นกิเลสอย่างหยาบแล้วก็ไปรักเพศตรงข้ามไปรักผู้หญิงเรียกว่าอันตราย ของพระใหม่ก็ไปอ่านดู นี่เป็นเรื่องกิเลสอย่างหยาบ ที่มาจากกิเลสอย่างกลาง เกิดขึ้นรบกวนจิตใจคือนิวรณ์ทั้งหลาย แล้วมาจากกิเลสอย่างละเอียดที่ว่าสังโยชน์ผูกมัดรัดรึงจิตใจ โยคะ โภคะ อาสวะ เพราะกิเลสเนี่ยมันมีหลายชนิดมันร่วมกันทำงาน
เพราะฉะนั้นก็ต้องปฏิบัติฝ่ายโพธิ โพธิปักขิยธรรม ก็มีหลายอย่างเหมือนกันเช่น สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยะมรรค 8 อิทธิบาท 4 เนี่ยว่าทางแห่งความสำเร็จเราต้องการสำเร็จก็ต้องสนใจ เรื่องอิทธิบาท ฉันทะคือพอใจ พอใจที่ปฏิบัติ วิริยะก็เพียรปฏิบัติ จิตตะต้องเอาใจใส่ วิมังสา ใคร่ครวญพิจารณาแก้ไข ว่าทำไมที่ไม่มีปัญหา มันไม่มี ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนหาให้เจอ หาให้พบแล้วก็ไขให้มันเปลี่ยนแปลง นะครับนี่คือหน้าที่ของพวกเราที่มาอยู่กันที่สวนโมกข์ซึ่งเป็นวัดของพระเดชพระคุณท่านอาจารย์พุทธทาส เหมือนอย่างมาเข้ามหาวิทยาลัยของพระพุทธเจ้า ถ้าอยู่ที่นี่ก็ทำประโยชน์อย่างนี้ถ้าออกไปที่อื่นก็ทำประโยชน์ให้ผู้อื่น อย่างพระที่บวชในโครงการปีนี้ก็ครบ 5 พรรษา พระ 5 พรรษาเนี่ยเป็นเจ้าอาวาสได้
เนี่ยวัดมันร้างเยอะวัดไม่มีพระมันเยอะ ต่อไปเราจะไปช่วยวัดโน้นวัดนี้เป็นเจ้าอาวาส เราก็ต้องเตรียมตัวฝึกไว้ก็ถ้าเป็นเจ้าอาวาสวัดไหนก็ต้องพาวัดพาวาให้ไปข้างหน้าได้ มันมีหลายๆ อย่างที่ต้องรู้ที่ต้องกระทำ นอกนั้นก็ เนี่ยคือหน้าที่ของพวกเราอบรมจิตใจเอาชนะกิเลส พวกเรามาบวชเป็นพระเป็นเนื้อนาบุญของโลกก็ทำให้ประชาชนศรัทธา เนื้อนาที่คนปลูกพืชหว่านข้าวลงไปในนา แล้วไม่ได้ผลคือนาที่เป็นดินดอน เป็นนาที่เค็มเป็นนาที่ดินมันไม่ดี คนหว่านพืชลงไปไม่ได้ผล เหมือนกันที่ประชาชนทำบุญกับพระสงฆ์ที่ไม่เป็นเนื้อนาบุญ เค้าก็ได้บุญน้อย ถ้าทำให้เค้าไม่ศรัทธา ต่อไปเค้าก็เลิกทำบุญไปเลย เพราะฉะนั้นต้องมองให้เห็นหลายๆด้าน พระพุทธศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร เนี่ยโลกมันมีปัญหาเยอะเพราะคนขาดธรรมะขาดคุณธรรม เราก็พยายามทำประโยชน์ตัวเอง ทำประโยชน์ผู้อื่น
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็ปฏิบัติกัน เราจะอยู่ที่ไหนจะไปที่ไหน กิเลสมันตามติดอยู่ตลอดเวลา เผลอสติเมื่อไหร่มันก็เข้ามา ชีวิตของมนุษย์เราเหมือนอย่างแล่นเรือไปในมหาสมุทรถ้าเรือมันรั่วเมื่อไหร่ น้ำก็เข้าเรือ ถ้าไม่อุดเรือ ถ้าไม่วิดน้ำมันเยอะเรือก็จม ชีวิตจริงๆ มันก็เป็นอย่างนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนอยู่ที่ไหนต้องไม่ประมาท มีครูบาอาจารย์เป็นเพื่อนคอยตักเตือนอยู่เสมอต้องเคารพครูบาอาจารย์ เคารพพระพุทธ เคารพพระธรรม เคารพพระสงฆ์ เคารพในการไม่ประมาท แม้แต่การปฏิสันถารกับคนก็ต้องไม่ประมาท ความไม่ประมาทเนี่ยเป็นหัวใจสำคัญของพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าตรัสว่าบรรดารอยเท้าของสัตว์ที่เที่ยวไปบนแผ่นดิน ไม่มีรอยเท้าชนิดไหนที่จะใหญ่เท่ากับรอยเท้าของช้าง รอยเท้าของช้างรอยเท้าที่ใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสรุปลงที่ความไม่ประมาทปัจฉิมโอวาทเนี่ยเพราะฉะนั้นเราก็ต้องไม่ประมาท
เอาละครับต่อไปก็ปฏิบัติกันลมหายใจเข้าออก ถ้ายังไม่ตายมันก็มีตลอดเวลา ก็ใช้ลมหายใจเข้าออกเป็นเครื่องมือดับทุกข์ เครื่องมือดับทุกข์อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก แต่ว่าต้องมีสติ มีสัมปชัญญะ ผูกจิตไว้กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก หายใจเข้าก็ตามลมไปหายใจออกก็ตามกันมา ปฏิบัติมากเท่าไหร่ก็จะมีประโยชน์ พอได้สมาธิมาก็อบรมให้เกิดปัญญา คือเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามที่เป็นจริงคือเห็นสังขารนั่นเอง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสังขาร ยกเว้นพระนิพพานที่ไม่เป็นสังขาร นอกนั้นเป็นสังขารหมด สังขารมันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ถ้าถอนความนึกว่าตัวตนออกไปได้ ในชีวิตก็จะเลื่อนจากคนธรรมดา เป็นพระอริยะเจ้า พอละตัวตนละกิเลสชั้นละเอียดได้นั่นเอง เอาละครับต่อไปนี้ก็ปฏิบัติกันดู เวลาเล็กๆน้อยๆ