แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ต่อไปนี้ก็ขอให้พวกเราที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปทุกองค์ ไม่ว่าบวชเก่าหรือบวชใหม่ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมในเวลาที่ดีที่สุด รวมทั้งเจ้านาคที่เตรียมตัวจะมาบวชเข้าพรรษาในเดือนนี้ แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ณ บริเวณนี้ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรม
วันนี้ก็มีสามเณร ที่บวชเข้ามาเมื่อวานมานั่งอยู่ด้วย ตาหลวง (ผู้พูด) ก็ขอแสดงความยินดีพร้อมอนุโมทนาที่สามเณรได้มีโอกาสมาบวชและอยู่ที่สวนโมกข์ในเวลาไม่มาก สามเณรยังไม่รู้ภาษาไทยดีเหมือนอย่างคนอื่น เพราะว่ากำลังเป็นนักเรียน เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ รู้ภาษาฝรั่งมากกว่าภาษาไทย ก็ไม่เป็นไร เรื่องภาษาเราสามารถเรียนกันได้ ก็มีบางคนคุณพ่อคุณแม่ไปอยู่ที่ประเทศอเมริกาและลูกเกิดที่อเมริกาแต่ว่าพ่อแม่เป็นคนไทย พ่อแม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็อยากให้ลูกบวชเป็นพระ ก็มาอยู่ที่นี่ เป็นชาวไชยานี่เอง พูดภาษาไทยไม่ได้ต้องใช้ภาษาฝรั่งในการติดต่อในการพูดจากันเพราะไปอยู่ที่ประเทศอเมริกา แต่พ่อแม่เป็นคนไทยแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นมนุษย์เรา เกิดที่ไหน ภาษาที่เราพูดกันก็ใช้ภาษาเฉพาะถิ่นนั้นๆ ประเทศนั้นๆ แต่ว่าภาษานี่มันเรียนกันได้ เดี๋ยวนี้มีคนไทยบางคนสามารถพูดภาษาได้หลายภาษา ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ พูดภาษาอังกฤษ พูดภาษาจีน คนไทยเด็กๆ พ่อแม่ก็พยายามส่งลูกไปเล่าไปเรียน ให้มีความรู้ภาษาต่างๆ รู้ภาษาฝรั่ง ภาษาอังกฤษ
ภาษาฝรั่งมันมีหลายภาษา ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน มีหลายภาษา และก็ภาษาจีน เพราะว่าประชากรของคนจีนมีมาก พันกว่าล้าน อันนี้คนไทยก็ส่งลูกไปเรียนที่ประเทศจีนก็พูดจีนได้ ถ้าตั้งใจที่จะเรียนก็มีความรู้เรื่องภาษา ก็ขออนุโมทนาที่สามเณรมีความรู้ทางภาษาและมาอยู่ที่สวนโมกข์ ซึ่งเป็นวัดของพระเดชพระคุณท่านอาจารย์พุทธทาส
ท่านอาจารย์พุทธทาสมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ก็ไปดูรูปหุ่นที่เขาปั้นขึ้นไว้ หุ่นรูปนี้เหมือนกับท่านอาจารย์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ หากต้องการรู้ว่าท่านอาจารย์มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรก็ไปดูหุ่นที่อยู่ในห้อง เรียกได้ว่าถ้าได้ไปเห็นไปเจอก็นึกถึงท่านอาจารย์ท่านพุทธทาส
สวนโมกข์เนี่ย ถ้าไม่มีท่านอาจารย์พุทธทาส สวนโมกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ท่านอาจารย์มุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีสวนโมกข์เป็นวัดป่า แต่ท่านอาจารย์พุทธทาสท่านพูดว่า “ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า ท่านเองก็มีไม่ได้” เพราะฉะนั้น พวกเราที่เข้ามาบวชในพุทธศาสนา แม้เป็นอุบาสกอุบาสิกา ก็ต้องระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นที่พึ่งของพุทธบริษัท เป็นบุคคลเอกที่ได้อุบัติขึ้นมาบนโลกนี้ สำหรับเราชาวพุทธเราพูดได้เลยว่า ไม่มีใครเสมอเหมือนพระองค์ พระองค์ได้ค้นพบธรรมะสูงสุด ที่ช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ พ้นจากปัญหา ท่านปุถุชนคนธรรมดาให้เลื่อนชีวิตไปสู่พระอริยเจ้า สูงสุดคือพระอรหันต์
มีบางคนไม่เข้าใจความหมายของคำว่าพระอรหันต์ ในครั้งพุทธกาลคนสนใจเรื่องพระอรหันต์กันมาก่อนพระพุทธเจ้า พอรู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ก็เกิดศรัทธาเลื่อมใส อยากจะพบอยากจะเห็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระอรหันต์ คำว่าพระอรหันต์คือผู้ไกลจากกิเลส คืออยู่เหนือความทุกข์ อยู่เหนือปัญหา มนุษย์เราทุกคนที่เกิดมาล้วนแต่พาปัญหา พาความทุกข์ติดมากับชีวิตทุกคน เกิดมาแล้วก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย มีปัญหานานาประการในชีวิตประจำวัน น้อยคนที่จะไม่มีปัญหา พระอรหันต์คือผู้ที่ไม่มีปัญหา อยู่เหนือความทุกข์ อยู่เหนือปัญหา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นจอมพระอรหันต์ พระองค์ได้ตรัสรู้ธรรมะ ที่ช่วยยกจิตใจของปุถุชนให้เลื่อนสูงขึ้น สูงขึ้น
เมื่อเราทุกคนเกิดมา ตั้งต้นชีวิตที่ปุถุชนก่อน ปุถุชนคือคนธรรมดาสามัญ มีแต่สัญชาตญาณ ในชีวิตของมนุษย์เราที่เป็นปุถุชนเหมือนกับสัตว์เดรัจฉานทั่วๆ ไป คือ 1) รู้จักกินอาหาร 2) รู้จักหลับนอน 3)รู้จักกลัวภัย 4) รู้จักสืบพันธุ์ และก็รู้สึกว่ามีตัวตน ปุถุชนทุกคนมีแต่สัญชาตญาณ เพราะฉะนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดขึ้นจากปุถุชนทั้งนั้น ปัญหาต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจากพระอริยเจ้าเลย เกิดขึ้นจากปุถุชนทั้งนั้น
ปัจจุบันนี้ ในประเทศไทยเราก็มีปัญหาในแต่ละวัน ๆ เรื่องนั้น เรื่องนี้ ก็มาจากปุถุชนทั้งนั้น ผู้คนที่หนาแน่นอยู่ด้วยกิเลส อยู่ด้วยความโลภ อยู่ด้วยความโกรธ อยู่ด้วยความหลง นี่คือปุถุชน ถ้าปุถุชนเหล่านี้สนใจนำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาประพฤติมาปฏิบัติก็ได้ยกจิตใจให้สูงขึ้น สูงขึ้น จนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งมีอยู่หลายระดับ ระดับต้นคือพระโสดาบัน สูงขึ้นมาคือพระสกทาคามี สูงขึ้นมาอีกระดับคือพระอนาคามี และสูงสุดคือพระอรหันต์ การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า ทำให้ปุถุชนคนธรรมดาได้เลื่อนชีวิตสูงขึ้นจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า สูงสุดคือเป็นพระอรหันต์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นจอมพระอรหันต์ อย่างวันมาฆบูชาในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางพระอรหันต์ 1,250 องค์ พระอรหันต์เหล่านั้นเมื่อก่อนก็เป็นพระปุถุชนกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพวกปัญจวัคคีย์ พวกชฎิลที่มีจำนวนถึงพันกว่ารูป พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมให้พวกชฎิลเหล่านั้นได้ฟังธรรมแล้วกลายมาเป็นพระอรหันต์เป็นจำนวนใหญ่ เกิดพระอรหันต์ขึ้นมาในโลก ก็อาศัยธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ เพราะฉะนั้น เมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ขึ้นมาบนโลกนี้แล้ว ก็ทำให้เกิดพุทธบริษัทตามมา พุทธบริษัทคือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พวกเรานี่ก็ถือว่าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
นอกจากนั้นก็ทำให้เกิดสาธารณวัตถุ วัดวาอารามต่างๆ มาจากคนที่ศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า บริจาคเงินบริจาคทรัพย์ สร้างวัดสร้างวาขึ้นมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล พระเจ้าแผ่นดินเช่นพระเจ้าพิมพิสารได้ถวายที่ดินให้พระพุทธเจ้า ก็จะเห็นได้ว่าวัดเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งพุทธกาล อนาถบิณฑิกเศรษฐีบริจาคทรัพย์มากมายมหาศาลสร้างวัดพระเชตวัน นางวิสาขาบริจาคทรัพย์มากมายสร้างวัดบุพพารามในประเทศอินเดีย ต่อมาพระพุทธศาสนาเผยแพร่ไปสู่ประเทศอื่น ทุกประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนามีวัดวาอาราม มีสาธารณวัตถุ อย่างพระพุทธรูปนี่ก็มีนับเป็นล้านๆ พระพุทธรูปคือรูปเคารพที่เขาทำแทนพระพุทธเจ้า แต่ว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าพระองค์จริง อย่างประเทศไทยเราก็มีมากมายมหาศาล พระพุทธรูปบางองค์ทำด้วยทองคำ น้ำหนักเป็นตันๆ
คราวก่อนผมได้คุยกับท่านเจ้าคุณพระพรหมมังคลาจารย์ ที่ท่านอยู่ที่วัดไตรมิตร ผมไม่เคยไปวัดไตรมิตรแต่ได้ยินข่าวว่ามีพระทองคำ ท่านบอกว่าถูกแล้วเป็นพระทองคำน้ำหนักประมาณ 5 ตัน เป็นทองคำ อาจารย์บอกว่า ไม่ได้มีเฉพาะองค์นี้ ที่อื่นก็มีพระพุทธรูปทองคำ ทองคำนับได้ว่าเป็นแร่ธาตุที่มีราคาแพงและเขาบริจาคมาสร้างเพราะศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเพราะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างท่านอาจารย์พุทธทาส หากไม่มีพระพุทธเจ้า ท่านอาจารย์พุทธทาสก็มีไม่ได้ ท่านอาจารย์จึงพูดว่า “ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า ท่านก็คงไม่ได้บวชในพระพุทธศาสนา”
พวกเรามาอยู่กันในวัดของท่านอาจารย์พุทธทาส ก็ลองสนใจสิ่งที่ท่านอาจารย์พุทธทาสทำเอาไว้ ท่านอาจารย์พุทธทาสต้องการสร้างสวนโมกข์ให้เป็นที่ปฏิบัติธรรม พวกเรามาอยู่กันในวันนี้ต้องสนใจปฏิบัติธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นการเสียเวลาเปล่า ไม่ได้ประโยชน์อะไร การปฏิบัติธรรมเนี่ยความจริงก็ไม่ได้มีมาก มีอยู่แค่เพียง 3 ระดับ คือ
1. ไม่ทำบาปทั้งปวง
2. ทำกุศลให้มากขึ้น มากขึ้น
3. ทำจิตใจให้ขาวรอบ
การปฏิบัติธรรม จุดมุ่งหมายก็คือการขจัดกิเลสซึ่งเป็นเหตุแห่งปัญหา เป็นเหตุแห่งความทุกข์ ปัญหาต่างๆ ลองไปศึกษาดู มาจากกิเลสทั้งนั้น มาจากราคะ หรือโลภะ มาจากโทสะ มาจากโมหะ คำว่าราคะคือมีความกำหนัดรัก โดยเฉพาะเรื่องเพศเรื่องกามารมณ์ เรื่องผู้หญิงเรื่องผู้ชาย เกิดปัญหาขึ้นมากมายมาจากกิเลสราคะ โลภะเป็นกิเลสพวกเดียวกันกับราคะ เป็นความโลภความอยากได้ เรื่องวัตถุสิ่งของ เรื่องอารมณ์ต่างๆ ภายในจิตใจในชีวิตประจำวัน
เรามาอยู่ในสวนโมกข์ มันเบาบางบ้างไหม หรือมันยังเหมือนเดิม หรือเพิ่มมากกว่าเดิม ก็ต้องตรวจดูแต่ละวัน ๆ สังเกตไม่ยาก ก็เมื่อกระทบกับอารมณ์ อารมณ์ต่างๆ ที่เราเกี่ยวข้องกัน มีอารมณ์ที่น่ารักน่าพอใจ อารมณ์ที่น่าชังคือไม่พอใจ อารมณ์ที่ยินดียินร้าย เมื่อตาเห็นรูป เมื่อหูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นกระทบกับรส กายจับต้องโผฏฐัพพะ จิตรู้อารมณ์ จิตใจเป็นอย่างไรก็สังเกต ถ้าจิตใจยังหวั่นไหว ยินดียินร้าย โมโหโทโสยังไม่ลด แสดงว่าไม่ได้ผล แม้บวชมากี่ปี กี่ปี ก็ยังไม่มีผล ไม่ได้ผลก็ต้องละอายให้มาก ต้องมีหิริโอตตัปปะ ละอายบาปกลัวบาป บาปจริงๆ ก็คือกิเลส เราก็ต้องปฏิบัติธรรมเท่านั้น ไม่ทำบาปทั้งปวงเพื่อกำจัดกิเลส จิตหยาบๆ ที่แสดงออกมาเป็นการกระทำ การกระทำทางกาย เช่นการฆ่า การรักล่วงเกินของรักของเขา การผิดศีล เป็นกิเลสหยาบ ๆ ทางวาจาคือพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ ก็ต้องสำรวมระมัดระวังว่าคำพูดที่มันก่อให้เกิดกิเลส ก็เห็นพูดมาอย่างนี้ก็พูดด้วยกิเลส พูดด้วยกิเลสก็เป็นเหตุ เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องเอาชนะมัน ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ก็มาจากจิตใจที่กิเลสเข้ามาอยู่นั่นเอง ก็ต้องกลัวให้มากๆ กิเลสนั้นเป็นสิ่งน่ากลัวแต่คนไม่กลัว ไปรับกิเลส บูชากิเลสมันก็ไปไม่รอด ก้าวหน้าไม่ได้ แม้มาอยู่ที่สวนโมกข์ก็ก้าวหน้าไม่ได้ นั้นก็ต้องระวัง ต้องไม่ประมาท และก็ทำกุศลให้เพิ่มขึ้นๆ
สิ่งที่ทำกันอยู่ก็คือตัวสมาธิ นั้นมาอยู่ที่สวนโมกข์ต้องสนใจเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา กุฏิทุกหลังเป็นกุฏิกรรมฐานทั้งนั้น ไม่ได้เป็นบ้านเป็นเรือนที่มาอยู่สบายๆ เป็นกุฏิกรรมฐาน สำหรับมาอยู่เพื่อกันแดดกันฝน เพื่อสะดวกในการเจริญสมาธิภาวนา ก็ต้องสนใจให้มากขึ้น ตั้งกุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ขาวรอบ คือ ประจักษ์กิเลสในจิตใจ ในสันดาน กิเลสชั้นลึก ชั้นอนุสัย ชั้นอาสวะ ให้มันน้อยลง ๆ มันจะยกจิตใจให้สูงขึ้นไปสู่ความเป็นพระอริยะ พระอริยะนี่เป็นเป้าหมาย อริยะแปลว่าไกลจากข้าศึก พุทธบริษัทมีถึง 4 ประเภท ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เป้าหมายเหมือนกัน แม้เป็นอุบาสกอุบาสิกาที่เข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าก็ได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้ากันมากมาย
ธรรมะของพระพุทธเจ้าทำให้คนได้เลื่อนชีวิตเป็นชีวิตที่ประเสริฐ เพราะฉะนั้น สาวกของพระพุทธเจ้าที่มีชื่อเสียงมากมายหลายองค์ แม้เป็นสามเณรก็มีหลายองค์ แม้เป็นอุบาสกอุบาสิกาก็มีหลายคนที่มีชื่อเสียงมีคุณธรรม ก็เพราะอาศัยธรรมะของพระพุทธเจ้า
โลกปัจจุบันนี้ เป็นโลกที่เจริญก้าวหน้าทางวัตถุ ข่าวสารข้อมูล โซเชียลมีเดีย คนรู้เรื่องต่างๆ แต่อารมณ์อยู่ที่คนเสพ คนรู้สึกว่าเป็นอารมณ์ รวมๆ แล้วเป็นอารมณ์ร้อนอารมณ์ร้ายทั้งนั้น ในแต่ละวัน ๆ คนที่อารมณ์ขึ้นก็ได้พบอารมณ์ร้อนอารมณ์ร้าย เป็นอารมณ์สกปรก เป็นอารมณ์ที่ประกอบด้วยกิเลส เพราะฉะนั้นถ้าเราไปคลุกคลีกับอารมณ์ร้อนอารมณ์ร้าย จิตใจก็มีปัญหา รู้จักเลือกอารมณ์ ทีนี้อารมณ์ที่เป็นกุศลก็อยู่ที่เรา โดยเฉพาะลมหายใจเข้าออก ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เพราะพระองค์ทรงเจริญอานาปานสติ “อานะ” หายใจเข้า “อาปานะ” หายใจออก แต่ว่าคนทั่วไปไม่มีความรู้ที่จะใช้ลมหายใจเข้าออกเป็นอารมณ์ที่เป็นกุศล เป็นอารมณ์ของสมาธิ
เมื่อวานผมเข้าไปพบฝรั่งที่สวนโมกข์นานาชาติ ตอนเช้านี้ก็ต้องไปอีก ไปพบฝรั่ง ไปปฏิบัติธรรมกับฝรั่ง ก็ไปบรรยายให้ฝรั่ง 4-5 ครั้ง อย่างเดือนนี้ก็มีฝรั่ง 60 กว่าคน ผมก็พูดเรื่องนี้แหละว่าผมมาอยู่ที่สวนโมกข์ก็เป็นโอกาสดี ใช้สิ่งที่คุณมีตั้งแต่คุณเกิดมา มนุษย์เราเกิดมาก็มีลมหายใจเข้าออกกันทุกคน แต่ว่าเราไม่มีความรู้ว่าลมหายใจเข้าออกเป็นของดี เป็นของประเสริฐ เป็นหนทางที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข เอาชนะความทุกข์ ให้ใช้ลมหายใจเข้าออก
ที่นี่ก็เหมือนกัน ในสวนโมกข์วัดธารน้ำไหล พวกเราอยู่ที่นี่ถ้าต้องการจะก้าวหน้า ต้องการจะได้ประโยชน์ก็ต้องสนใจฝึกอานาปานสติให้มากขึ้น อยู่ที่กุฏิส่วนตัวก็ดี หรือเลือกมาปฏิบัติธรรมร่วมๆ กันก็ดี ก็เป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ตอนเย็นขอร้องชักชวนท่านทั้งหลายว่าให้ช่วยกันมาปฏิบัติธรรม เวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสอง ก็เรียกว่า เป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ได้ผล วันนี้ก็เป็นวันพระผมก็จะมาลง ลงมาปฏิบัติธรรมร่วมกับคนที่มาปฏิบัติธรรมในวัด วันอื่นๆ ผมก็ไม่ค่อยได้มาก็ขอร้องท่านองค์นั้น องค์นี้มาปฏิบัติธรรมทุกวัน คนเข้ามาในสวนโมกข์ ต้องเห็นพระสงฆ์ปฏิบัติธรรม อย่างธรรมดาเห็นพระสงฆ์กวาดวัด ทำความสะอาดเรียบร้อย ไม่ได้เข้ามาในวัดเห็นพระสงฆ์ถือโทรศัพท์มือถือประกบหูเที่ยวเดินพูดเดินคุย อันนี้ใช้ไม่ได้ สวนโมกข์ไม่ต้องการอย่างนั้น ต้องการให้พระสงฆ์เรียบร้อย เป็นพระสงฆ์ที่คนศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก ก็ต้องไม่ประมาท คนเข้ามาในวัดต้องเกิดศรัทธา เข้ามาในวัดต้องเห็นพระสงฆ์เดินจงกรมอยู่บ้าง เห็นพระสงฆ์นั่งสมาธิกันบ้าง แล้ววัดจะไปรอด
ฉะนั้น วัดสวนโมกข์มาจากท่านอาจารย์พุทธทาส ท่านประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะท่านสนใจปฏิบัติมาอยู่ที่วัดร้าง ลำพังเพียงรูปเดียว 2-3 ปีท่านมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติและรับผล และท่านมาเห็นที่ตรงนี้ ท่านเห็นว่าเป็นที่ป่า ท่านก็พยายามที่จะมีที่ตรงนี้ทำเป็นที่ปฏิบัติธรรม เมื่อก่อนก็ไม่ได้สร้างเป็นวัด ท่านเรียกว่าสวนโมกข์ ต่อมาก็ยกขึ้นเป็นวัด เรียกว่าวัดธารน้ำไหล แต่ว่าเป้าหมายจริงๆ อยู่ที่โมกข์ “โมกข์” แปลว่าเกลี้ยงเกลา สงบเย็น
กับเวลาที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้ก็ขอให้พวกเราสนใจ ใช้ชีวิตให้ดี ลองกำหนดชีวิตกับลมหายใจเข้า หายใจออก สามเณรก็ทำได้ หายใจเข้าตามลมไป หายใจออกก็ตามลมมา เมื่อจิตมีสมาธิจะมีประโยชน์หลายอย่าง คนที่มีสมาธิก็นอนหลับสนิท ความจำก็ดี ความเข้าใจก็ดี ถ้าสมาธิดีแล้วทำอะไรก็ก้าวหน้า ก็จะบอกว่าเมื่อมีสมาธิแล้วก็ใช้สมาธิศึกษาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้เห็นตามที่เป็นจริง เรียกว่าพิจารณาสังขาร ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแต่เพียงสังขารเท่านั้น และสังขารมันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ใครไปห้ามสังขารไม่ให้เปลี่ยนเป็นไปไม่ได้ สิ่งไหนไม่เที่ยงเช่นนั้นก็เป็นทุกข์ อะไรเป็นทุกข์ก็อย่าไปยึดถือว่ามันเป็นเรา เป็นของเรา ถ้าใครทำจิตใจให้ว่าง จับความรู้สึกว่าง จิตใจก็เลื่อนสูงขึ้นๆ ถ้าใครทำได้ถาวรผู้นั้นก็เป็นพระอริยเจ้า ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าช่วยยกจิตยกวิญญาณของปุถุชนคนธรรมดาให้สูงขึ้น จนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า สูงสุดคือพระอรหันต์ ผู้ไกลจากกิเลส ผู้อยู่เหนือความทุกข์
เรายังไม่เป็นพระอรหันต์ เราก็พยายามเดินตามรอยพระอรหันต์ ถ้ากลับไปก็ไปปฏิบัตินิด ๆ หน่อย ๆ เท่าที่มีเวลา 2-3 นาที 4-5 นาที ก็ยังดีกว่าไม่มีการปฏิบัติ หายใจเข้าก็ตามลมไปจับปลายจมูก นำลมเข้าไปในจมูกแล้วไปหยุดที่ท้องที่สะดือ หายใจออกจากสะดือตามมาที่ปลายจมูก ตามลมหายใจแบบนี้ตลอดเวลา มีสติมีสัมปชัญญะ จิตใจก็จะค่อยสงบ จิตใจจะค่อยสบาย ปฏิบัติกันนะต่อไปนี้